สูตรลับขนมจีนน้ำยาป่า

สูตรลับขนมจีนน้ำยาป่าตีนไก่น้ำปลาร้านัวๆสูตรสำหรับทำกินทำขายรายได้ดีอาชีพขายขนมจีน พลิกชีวิตเปลียนรวยมาหลายเจ้าแล้วไม่เชื่ออย่าลบหลู่

ส่วนผสมน้ำยาขนมจีน
หมายเหตุ : สูตรนี้ทางเราไม่ได้มีการกำหนดปริมาณ ชั่ง ตวง วัด ที่เป๊ะๆ ของส่วนผสมนะคะ ซึ่งเป็นสูตรที่ให้ทุกคนลองกะตวงส่วนผสมเอาตามความเหมาะสมของหม้อหรือปริมาณของแต่ละบุคคล
กระชาย
กระเทียม
หอมแดง
ขิง
พริกแห้ง
เนื้อปลานิล ปลาช่อน ปลาดุก ปลาทู ปลาอินทรีย์ ให้นำปลาไปต้มและแกะเอาเฉพาะเนื้อปลาออกมา (เราสามารถเลือกชนิดปลาได้ตามความชอบเลยนะค่ะ)
เครื่องปรุงรส และส่วนผสมชนิดอื่นๆ ได้แก่
เกลือ
พริกแกง
ปลาร้า หรือจะใช้หัวปลาเค็มแทนก็ได้นะค่ะ
ผักโรยหน้า ได้แก่ ต้นหอม ผักชีลาว ใบมะกรูด พริกสดคั่วหรือย่าง ข่าคั่วหรือย่าง กระชายคั่ว
ลูกชิ้น ตีนไก่ (เพิ่มเติมได้ตามความชอบเลยนะค่ะ)
ขั้นตอนและวิธีทำน้ำยาขนมจีน
นำส่วนผสมหลัก ได้แก่ หอมแดง กระเทียม ขิง กระชาย นำ ยกเว้นพริกแห้ง และนำส่วนผสมหลักไปหั่นแว่นเป็นชิ้นไม่เล็กมาก
หลังจากนั้นนำส่วนผสมที่หั่นแล้ว ไปคั่วรวมกัน (ก่อนคั่วให้ใส่น้ำในกระทะเล็กน้อยเพื่อกันกลิ่นไหม้นะค่ะ)
หลังจากคั่วเสร็จแล้ว พักให้เย็น และนำไปปั่นละเอียดรวมกันกับพริกแห้งที่เตรียมไว้
นำเนื้อปลาที่แกะแล้ว นำมาตำให้ละเอียด
หลังจากนั้นนำหัวปลาเค็ม หรือปลาร้าที่เราเตรียมไว้ ไปต้นในน้ำเดือด ให้กลิ่นหอมของน้ำปลาร้า หรือน้ำปลาเค็มออกมา ต้มจนกว่าหัวปลาเค็ม หรือปลาร้าจะเปื่อย
พอต้มน้ำปลาร้าเสร็จแล้ว ให้นำตะแกรงมากรองเอาก้างออก ให้เหลือแต่น้ำปลาร้าต้มสุก พักไว้สักครู่ เพื่อให้เย็น
เอาหม้อตั้งไฟ ใส่พริกแกง และส่วนผสมที่เราปั่นไว้ คนให้เข้ากัน และฉีกใบมะกรูดเป็นชิ้นๆ ใส่ลงไปในหม้อ และคนให้เดือดและคนให้เข้ากันอีกครั้ง
หลังจากนั้น ให้ใส่น้ำปลาร้าต้มสุกที่กรองเอาก้างออกแล้วลงไป
คนให้ส่วนผสมเข้าที่ และรอจนน้ำยาเดือดพล่าน
นำเนื้อปลาที่ตำละเอียดแล้วใส่ลงไปในหม้อ คนให้เข้ากัน
ใส่เกลือเล็กน้อย ชิมรสชาติ และเติมผักโรยหน้าต่างๆ ลงไป
เครื่องเคียงและผักที่กินคู่กับขนมจีน มีอะไรบ้าง
ผักบุ้งต้ม
ผักกระหล่ำปีหั่นฝอย
ถั่วพู
สะระแหน่ โหระพา
ถั่วงอก
ถั่วฝักยาว
ผักกาดดองหั่น
แตงกวาหั่นแว่น
ไข่ต้ม ไข่เค็ม
ฯลฯ
เพียงเท่านี้ เราก็จะได้น้ำยาขนมจีนรสเด็ดกันแล้วค่ะ

ก๋วยจั๊บญวน สูตรสูตรอร่อยๆ

ก๋วยจั๊บญวน สูตรอุบลสูตรนี้อร่อยๆชัวร์ค่ะกทำกินทำขายรวยๆ สำหรับคนไกลบ้านหากินยากนักทำเองซะเลย!!!
เมนูง่ายๆอีกหนึ่งเมนูที่ทานอร่อยได้ทั้งบ้าน ตั้งแต่เด็กๆจนถึงคุณตาคุณยาย ถ้าเป็นแบบแห้งก็ต้องแช่น้ำให้นิ่มก่อน ต้องอ่านคำแนะนำที่ถุงนะคะ ส่วนเส้นสดหาซื้อได้แถวสะพานขาว ใครสนใจก็ค่อยมาถามพิกัดอีกที ซื้อมาทีเก็บใส่ตู้เย็นได้นานเหมือนกัน
**สำหรับแม่บ้านกรุงเทพที่ไม่มีเวลามาก แนะนำให้ต้มน้ำซุปทีก็ต้มเผื่อ เก็บเป็นแพ็คๆแช่แข็งไว้ หอมเจียวก็เจียวเก็บไว้ใช้ได้ ช่วยประหยัดแรงและเวลา ทำให้มีเมนูอร่อยแบบประหยัดแรงได้บ่อยๆค่ะ

ส่วนประกอบ
เส้นก๋วยจั๊บ: สดหรือแห้งก็ได้ มีขายตามซุปเปอร์มาเก็ต
หอมเจียว: ใช้หอมแดงหั่นแล้วเจียวเหมือนกระเทียม ระวังไหม้
ต้นหอม:ซอยเล็กๆ
น้ำซุป: ใช้กระดูกหมูผสมโครงไก่ ลวกน้ำร้อนทิ้ง1น้ำเพื่อความใสและอร่อย
เดือดแล้วหรี่ไฟด้วยน้ำจะได้ไม่ขุ่น ปรุงรสด้วยซี่อิ้วขาว เกลือ น้ำมันหอย ซอส สับประรดสักชิ้น(ถ้ามี)
หมูยอ
เนื้อไก่ฉีก
น่องไก่
ปีกไก่
ตีนไก่ ตามชอบ
วิธีทำ
แบ่งน้ำซุป กะสำหรับ1ชาม ใส่เนื้อสัตว์ตามชอบ ใส่เส้นลงต้ม ชิมว่าเส้นสุกก็ใส่หอมเจียว ต้นหอมซอย ตักเสริฟได้เลย

สูตรเด็ดน้ำซุปจิ้มจุ่ม

สูตรเด็ดน้ำซุปจิ้มจุ่ม(แจ่วฮ้อน)นัวๆรสกลมกล่อมพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดทำกินทำขายรวยๆเป็นเศรษฐี 

ส่วนผสมน้ำซุปสำหรับแจ่งฮ้อน
น้ำต้มกระดูกหมู หรือต้มซี่โครงหมู 1 ถ้วยตวง
ข่าซอยละเอียด 1 หัว
ตะไคร้ทุบหั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ 2 ต้น
รากผักชีทุบ 1 ราก
ใบมะกรูดซอย 3 ใบ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ใบผักชีฝรั่งซอย 3 ใบ
ต้นหอมหั่น 5 ต้น
น้ำปลา 1 ทัพพี
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 หม้อ
ส่วนผสมสำหรับทำน้ำจิ้ม
พริกป่น 1ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่ว 1-2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
ถ้าเพิ่มน้ำมะนาวไปด้วยจะหอมแซบ
น้ำตาลตามชอบ
ผักจะใส่ไม่ใส่ก็ได้ในน้ำจิ้ม
ผักหอมเปซอย 3 ใบ
ใบมะกรูดซอย 1 ใบ
กระเทียมสับละเอียด 2 กลีบ
หอมแดงสับละเอียด 1 หัว
ตะไคร้หั่นฝอยละเอียด 1 ต้น
วิธีการทำแจ่วฮ้อน
สำหรับเนื้อ หมู เนื้อวัว ให้เตรียมไว้ตามชอบ และ ใบโหระพา ใบชะพลู ผักชีฝรั่งหรืออีสานเรียกผักหอมเป ได้สามผักนี้จะกลิ่นหอมแรงสมเป็นแจ่วฮ้อน
ผักเสริม ผักกาดขาว ผักบุ้ง และผักอื่น ๆ วุ้นเส้น พวกนี้เป็นของแถมจะมีหรือไม่มีก็ได้
ตับ และเนื้อหมูได้สันใน เนื้อ หรือเนื้อวัว
**เคล็ดลับง่ายๆในการหั่นเนื้อวัวให้หั่นตามลายเนื้อวัว อย่าหั่นขวางลาย เพราะจะทำให้เนื้อเหนียวเกินไป แต่ถ้าหั่นตามลายเนื้อหัวจะไม่เหนียวและนุ่มกำลังดี
การทำน้ำซุป
ต้มน้ำเปล่า 1 หม้อที่เตรียมไว้ให้เดือดๆ แล้วนำกระดูกหมูหรือซี่โครงใส่ลงไป จากนั้นรอให้สุกจึงใส่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอม รากผักชี พอผักเริ่มเปื่อยปรุงรสด้วย เกลือ น้ำปลา น้ำตาล เคี่ยวให้เข้ากัน ถ้าหากต้องการความเข้นข้นให้ใส่เลือดหมู หรือเลือดวัวใส่ลงไปเหมือนก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวทำ คนให้ทั่วจนเลือดสุก
การทำ น้ำจิ้มแจ่วฮ้อน
ให้นำเครื่องปรุงน้ำจิ้มที่เตรียมไว้ ประกอบไปด้วย
พริกป่น 1ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่ว 1-2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
ถ้าเพิ่มน้ำมะนาวไปด้วยจะหอมแซบ
น้ำตาลตามชอบ
นำมาผสมรวมกันในถ้วยโดยใส่ข้าวคั่วเป็นลำดับสุดท้ายแล้วคนให้ทั่ว ก็จะได้น้ำจิ้มแจ่วฮ้อนพร้อมรับประทาน

สูตรก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก

ก้าวแรกของการเป็นเศรษฐีด้วยอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก สูตรสำหรับทำขาย!!!สูตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกรสเข้มข้นกลมกล่อมสูตรขายดีอร่อยถูกใจใครหลายคน

น้ำซุป
1.น้ำซุปกระดูกหมูน้ำตก 10 ถ้วย
2.เหล้าไทย 1 ช้อนโต๊ะ
3.รากขึ้นฉ่าย 3 ราก
สูตรน้ำซุปกระดูกหมูน้ำตก
ล้างกระดูกหมูคาตังหรือเอียวเล้ง ½ กิโลกรัมให้สะอาด ใส่ลงในหม้อบรรจุน้ำ 15 ถ้วย ยกขึ้นตั้งไฟกลาง ห่ออบเชยคั่ว โป๊ยกั๊กคั่ว อย่างละ 2 ชิ้น ลูกระวานคั่ว 3 ลูก ด้วยผ้าขาวบาง ใส่ลงในหม้อตามด้วยเก๋าคี่แช่น้ำพอนุ่ม 1 ช้อนโต๊ะ ใบเตยมัดเป็นกำ 8 ใบ รากผักชีทุบ 5 ราก กระเทียมทุบ 1 หัว พริกไทยเม็ดทุบพอแตก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำกระเทียมดอง ½ ถ้วย กระเทียมดองทุบ 4-5 หัว พอน้ำซุปเริ่มเดือดลดไฟอ่อนลง หมั่นช้อนฟองทิ้ง ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ¼ ถ้วย ซีอิ้วขาว ½ ถ้วย ซีอิ้วดำ 3 ช้อนโต๊ะ เกลือแกง 1 ½ ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลกรวด 3 ช้อนโต๊ะ เคี่ยวจนน้ำซุปมีกลิ่นหอม จากนั้นขยำเลือดหมูสด ¼ ถ้วยกับตะไคร้ 1 ต้น และเกลือป่น ¼ ช้อนชาพอเข้ากัน กรองเอาแต่น้ำใส่ลงในหม้อน้ำซุป เคี่ยวต่อจนน้ำซุปมีรสหวานหอมกลมกล่อม ปิดไฟ
วัตถุดิบ
1.ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก/เส้นใหญ่หรือเส้นหมี่แช่น้ำพอนุ่ม 1 กิโลกรัม
2.เนื้อหมูสันนอกหั่นชิ้นบาง 500 กรัม
3.ตับหมูหั่นชิ้นบาง 2 ถ้วย
4.ลูกชิ้นหมู 20 ลูก
6.คะน้าหรือยอดคะน้าหั่นขนาด 1 นิ้ว 500 กรัม
7.ถั่วงอกเด็ดหาง 500 กรัม
8.ปอดหมูต้มหั่นชิ้นบาง 2 ถ้วย
9.กระเทียมเจียวปนแคบหมู ½ ถ้วย
10.ขึ้นฉ่ายหั่น 1 ถ้วย
11.เลือดหมูสด ½ ถ้วย
12.ยอดโหระพาสำหรับตกแต่ง เครื่องเคียงมีแคบหมู โหระพา และถั่วงอก
เครื่องปรุง
1.น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
2.ซีอิ้วดำ 1 ช้อนชา
3.น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ
4.น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
5.พริกบด (พริกกะเหรี่ยงคั่วทั้งก้านจนเปลือกไหม้ปั่นกับน้ำอุ่นพอหยาบ) 2 ช้อนชา
วิธีทำ
1.ต้มน้ำซุปในหม้อต้มด้วยไฟกลางจนเดือดใส่เหล้าไทย และรากขึ้นฉ่าย ต้มพอเดือดและมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูลงลวกพอสุก ตักขึ้นใส่จานไว้ จากนั้นใส่ตับและลูกชิ้นลงลวกต่อ ตักขึ้น ใส่จานเดียวกับเนื้อหมู
2.ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวกับคะน้าและถั่วงอกในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงจนสุก ใส่ลงในชามก๋วยเตี๋ยว ใส่เนื้อหมู ตับ ปอด และลูกชิ้น ปรุงรสด้วยน้ำตาล ซีอิ้วดำ น้ำปลา น้ำส้มสายชู และพริกบด โรยกระเทียมเจียวและขึ้นฉ่าย จากนั่นใช้กระบวยตักเลือดหมูประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จุ่มลงในหม้อน้ำซุปที่เดือดด้วยไฟแรงครึ่งกระบวย พอเลือดสุกตักใส่ชามก๋วยเตี๋ยวพอมีน้ำขลุกขลิก ตกแต่งด้วยยอดโหระพา เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมเครื่องเคียง

สูตรซาลาเปา 10 ใส้

สูตรซาลาเปา 10 ใส้ เนื้อนุ่มแน่นสำหรับทำขาย ยึกเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว ใส้ครีม ใส้ถั่ว สังขยา งาดำ หมูสับ หมูแดง สาวกติ่มซำต้องฟิน
แป้งซาลาเปา
ก่อนจะไปทำซาลาเปาไส้ต่าง ๆ กัน สิ่งแรกที่เราต้องเตรียมนั่นก็คือ แป้งซาลาเปาเป็นพื้นฐานในการทำซาลาเปาทุกไส้ได้เลย และใครที่ชอบกินซาลาเปาเนื้อนุ่มฟูหน้าเนียนขอแนะนำแป้งซาลาเปายีสต์สูตรนี้ ซึ่งการทำแป้งไม่ยาก เพียงแต่ต้องระวังช่วงเวลาหมักแป้งและพักแป้งเพื่อให้ยีสต์ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เวลาอบซาลาเปาเสร็จแล้วเนื้อจะเบาฟูนุ่มละมุนลิ้นสุด ๆ เลยล่ะ พร้อมแล้วก็มาดูส่วนผสมแป้งซาลาเปาได้เลย
ส่วนผสมแป้งเชื้อ
แป้งเค้ก 350 กรัม
ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 240 กรัม
ส่วนผสมแป้งโด
แป้งเค้ก 180 กรัม
ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
แป้งเชื้อที่ผสมไว้
น้ำตาลทราย 125 กรัม
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 4 ช้อนชา
เนยขาว 40 กรัม
วิธีทำแป้งเชื้อ
1. ร่อนแป้งเค้ก 2 รอบแล้วใส่ลงในอ่างผสม ใส่ยีสต์ตามลงไปคนให้ผสมเข้ากัน
2. ทำหลุมแป้งตรงกลางแล้วค่อย ๆ เทน้ำเปล่าลงไป ใช้หัวตีรูปตะขอนวดแป้งจนส่วนผสมเริ่มเป็นก้อน
3. นำส่วนผสมแป้งใส่ภาชนะแล้วคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารหรือผ้าขาวบาง พักแป้งไว้ประมาณ 30-40 นาทีจนแป้งขึ้นฟูเป็นสองเท่า
วิธีทำแป้งโด
1. ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูเข้าด้วยกัน 2 รอบ เตรียมไว้
2. ใส่แป้งเชื้อที่ขึ้นฟูแล้วลงในเครื่องตีแป้ง ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือป่น และน้ำเปล่า ตีด้วยหัวตีรูปตะขอใช้ความเร็วปานกลางนวดแป้งพอเข้ากัน
3. ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้ลงไป ตีจนพอจับตัวเป็นก้อน
4. ใส่เนยขาวลงไปนวดจนแป้งมีเนื้อเนียนและนุ่ม
5. นำก้อนแป้งออกมาคลึงเป็นก้อนกลม ใส่ภาชนะแล้วใช้พลาสติกถนอมอาหารคลุมแป้งพักไว้ประมาณ 5-10 นาที
6. แบ่งแป้งออกเป็นก้อนขนาดตามต้องการ จากนั้นคลึงเป็นก้อนกลม ๆ แล้วคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารทิ้งไว้อีกประมาณ 10 นาที หรือจนส่วนผสมฟูขึ้นเป็นสองเท่าแล้วจึงนำไปห่อไส้ที่ต้องการ
1. ซาลาเปาไส้หมูสับ
เริ่มต้นกันด้วยซาลาเปาไส้หมูสับ จัดเป็นไส้ยอดนิยมอันดับต้น ๆ ก็ว่าได้ กินได้ตั้งแต่เด็กเล็กยันผู้ใหญ่ เนื้อแป้งนุ่มสอดไส้หมูสับผสมหอมใหญ่และน้ำมันงา ทำเป็นซาลาเปาลูกเล็ก หรือลูกใหญ่ก็ตามชอบ แต่ที่รู้ ๆ คือ กินลูกเดียวไม่พอแน่นอน
ส่วนผสม ซาลาเปาไส้หมูสับ
แป้งซาลาเปา (จากสูตรด้านบน)
รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
เนื้อหมูบด (หรือเนื้อไก่บด) 500 กรัม
แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่สับ 150 กรัม
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
กระดาษสำหรับรองซาลาเปา
วิธีทำไส้หมูสับ
1. เตรียมส่วนผสมแป้งให้พร้อม
2. โขลกรากผักชี กระเทียมสับ และพริกไทยป่นให้ละเอียด ใส่หมูสับและแป้งข้าวโพดลงไปแล้วนวดจนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน
3. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และน้ำมันงา คนผสมจนเข้ากันดี เตรียมไว้
4. แผ่แป้งซาลาเปาที่พักไว้จนขึ้นฟูแล้วให้เป็นแผ่นบาง วางไส้หมูสับแล้วห่อให้สวยงาม วางบนกระดาษ พักแป้งให้ขึ้นฟูสักครู่
5. วางเรียงซาลาเปาที่ขึ้นฟูแล้วลงในชุดนึ่งแล้วนำไปนึ่งโดยใช้ไฟแรงนานประมาณ 8-10 นาที นำออกจากเตา พร้อมเสิร์ฟ
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซาลาเปาไส้หมูสับ ติ่มซำตำรับกวางตุ้งสุดคลาสสิก
2. ซาลาเปาไส้หมูแดง
สูตรซาลาเปาไส้คลาสสิกต่อจากซาลาเปาไส้หมูสับคงหนีไม่พ้นซาลาเปาไส้หมูแดง เนื้อแป้งนุ่มลิ้นผสมผสานกับรสชาติของหมูแดงคลุกซอสรสเด็ดอร่อยเหาะจริงค่ะ ที่สำคัญได้กินเนื้อหมูเน้น ๆ ไม่มีไขมันแซมด้วย
ส่วนผสม ซาลาเปาไส้หมูแดง
แป้งซาลาเปา (จากสูตรด้านบน)
รากผักชี 3 ราก
พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ 500 กรัม
น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนชา
ผงทำหมูแดง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
หอมใหญ่หั่นเต๋า 1 หัว
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ (ละลายน้ำเปล่าเล็กน้อย)
พลาสติกถนอมอาหาร (สำหรับคลุมแป้ง)
กระดาษรองสำหรับซาลาเปา
วิธีทำซาลาเปาไส้หมูแดง
1. เตรียมส่วนผสมแป้งให้พร้อม
2. โขลกรากผักชีและพริกไทยให้ละเอียด เตรียมไว้
3. ผสมน้ำตาลทราย ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำหวาน ผงหมูแดง เกลือป่น และกระเทียมกับพริกไทยที่โขลกไว้เข้าด้วยกัน ใส่เนื้อสะโพกหมูลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
4. นำหมูที่หมักไว้ใส่ลงในหม้อ ตามด้วยน้ำเปล่าแล้วนำไปต้มจนเนื้อหมูสุกและเก็บน้ำหมูแดงเอาไว้ จากนั้นหั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นเต๋าเล็ก ๆ
5. นำเนื้อหมูลงไปผัดพร้อมจากนั้นใส่หอมใหญ่ลงผัดพอสุก ใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำลงไปผัดจนส่วนผสมแห้ง
6. แผ่แป้งซาลาเปาที่ขึ้นฟูแล้วออกเป็นแผ่นบาง ตักส่วนผสมไส้หมูแดงลงไป ห่อให้สวยงาม วางลงบนกระดาษรองซาลาเปา คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักไว้จนขึ้นฟูเป็นสองเท่า
7. นำซาลาเปาไปนึ่งบนน้ำเดือดโดยใช้ไฟปานกลางประมาณ 8-10 นาทีจนสุกยกลง นำออกจากที่นึ่งจัดเสิร์ฟ
3. ซาลาเปาไส้ครีม
สำหรับคนชอบซาลาเปาไส้หวานคงต้องลองทำซาลาเปาไส้ครีม มาพร้อมสูตรไส้ครีมหอมหวานเข้ากันดีกับเนื้อแป้งนุ่ม คุณแม่ที่กำลังมองหาอาหารว่างสำหรับคุณลูกลองทำให้ลูกทานนะคะ รับรองต้องติดใจแน่นอน
ส่วนผสม ซาลาเปาไส้ครีม
แป้งซาลาเปา (จากสูตรด้านบน)
ผงคัสตาร์ดสำเร็จรูป 225 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
นมสดแช่เย็นจัด 1 1/2 ถ้วยตวง
เนยสดเค็มละลาย 50 กรัม
พลาสติกถนอมอาหาร (สำหรับคลุมแป้ง)
กระดาษรองซาลาเปา
วิธีทำซาลาเปาไส้ครีม
1. เตรียมส่วนผสมแป้งให้พร้อม
2. ตีผสมผงคัสตาร์ดกับน้ำตาลไอซิ่ง และนมสดเข้าด้วยกันในเครื่องตีแป้ง ใช้หัวตีรูปตะกร้อดีด้วยความเร็วสูงสุดจนส่วนผสมเหนียวข้น จากนั้นเติมเนยสดละลายลงไปตีต่อจนส่วนผสมเป็นเนื้อเนียนเข้ากันดี ตักใส่ภาชนะ เตรียมไว้
3. แผ่แป้งซาลาเปาที่ขึ้นฟูแล้วให้เป็นแผ่นบาง ตักไส้ครีมลงไปแล้วห่อให้สวยงาม วางบนกระดาษ พักให้แป้งฟูขึ้นสักครู่
4. นำซาลาเปาขไปนึ่งบนน้ำเดือดโดยใช้ไฟปานกลางประมาณ 8-10 นาทีจนสุกยกลง นำออกจากที่นึ่ง จัดเสิร์ฟ
4. ซาลาเปาไส้ครีมลาวา
กินซาลาเปาไส้ครีมมาจนเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนแนวมากินซาลาเปาไส้ครีมลาวาสูตรนี้จากนิตยสารแม่บ้าน ฉีกออกมาแล้วไส้ครีมไหลเยิ้ม ที่สำคัญหอมกลิ่นไข่แดงด้วย แถมวิธีทำไม่ยากอย่างที่คิดด้วยนะคะ
ส่วนผสม ไส้ครีมลาวา
ไข่เค็มต้มสุก (เฉพาะไข่แดง) 5 ฟอง
นมผง 7 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ผงคัสตาร์ดสำเร็จรูป 6 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
นมสด 1/4 ถ้วยตวง
นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
เนยสดชนิดจืดละลาย 120 กรัม
ส่วนผสม แป้งเชื้อ
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
แป้งเค้ก 100 กรัม
ยีสต์ 2 1/4 ช้อนชา
น้ำเปล่า 245 มิลลิลิตร
ส่วนผสม แป้งโด
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 150 กรัม
ผงฟู 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 100 กรัม
เกลือป่นละเอียด 3/4 ช้อนชา
สารเสริม SP 1 1/2 ช้อนชา (สารเสริมสำหรับทำให้ขนมปังขึ้นฟู)
น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
เนยขาว 55 กรัม
แป้งเชื้อ
พลาสติกถนอมอาหาร (สำหรับคลุมแป้ง)
กระดาษรองซาลาเปา
วิธีทำไส้ครีมลาวา
1. นำส่วนผสมทั้งหมดใส่เครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นจนส่วนผสมเนียนละเอียด
2. เทส่วนผสมที่ได้ลงอ่างผสม นำเข้าแช่เย็นพอเซตตัว ใช้ที่ตักไอศกรีมตักเป็นลูก ๆ หรือปั้นเป็นก้อนกลมวางเรียงใส่ถาด นำเข้าแช่ตู้เย็นจนเซตตัวอีกครั้งก่อนนำไปใช้
วิธีทำแป้งเชื้อ
1. ร่อนแป้งสาลีและแป้งเค้กรวมกัน ใส่ลงอ่างผสม ใส่ยีสต์ลงไป คนพอเข้ากัน จากนั้นทำแป้งให้เป็นบ่อตรงกลาง
2. เติมน้ำเปล่าลงในแป้ง นวดจนแป้งจับตัวเป็นก้อน ใช้ฝาปิดให้สนิท พักแป้งไว้ประมาณ 30-40 นาที หรือจนส่วนผสมขึ้นฟูเป็นสองเท่า
วิธีทำแป้งโด
1. ร่อนแป้งสาลีกับผงฟูรวมกันใส่อ่างผสม เตรียมไว้
2. ผสมสารเสริม SP กับน้ำเปล่า คนพอเข้ากัน พักไว้
3. ใส่แป้งเชื้อลงในเครื่องผสม เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่น ใช้หัวตีรูปตะขอนวดด้วยความเร็วปานกลาง พอเข้ากันลดความเร็วเหลือต่ำสุด
4. เติมแป้งที่ร่อนไว้นวดต่อพอจับตัวเป็นก้อน ใส่ส่วนผสมสารเสริม SP และเนยขาว นวดต่อด้วยความเร็วปานกลางของเครื่อง จนแป้งมีลักษณะเนียนนุ่มไม่ติดภาชนะ ปิดเครื่อง
5. นำแป้งที่ได้คลึงเป็นก้อนกลม คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารพักไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นตัดแป้งก้อนละ 30-35 กรัม คลึงเป็นก้อนกลมใช้พลาสติกถนอมอาหารคลุมพักไว้อีกประมาณ 5 นาที
6. ใช้ไม้คลึงแป้งรีดก้อนแป้งให้เป็นแผ่นวงกลม ตักไส้ใส่ลงตรงกลางแผ่นแป้งหุ้มแป้งให้มีดไส้ วางลงบนกระดาษรองซาลาเปา ใช้พลาสติกถนอมอาหารคลุม พักไว้ประมาณ 30 นาที หรือจนแป้งขึ้นฟูเป็น 2 เท่า
7. เรียงซาลาเปาลงในที่นึ่ง นำขึ้นนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 6 นาที ยกลง พักไว้บนตะแกรง พร้อมเสิร์ฟ
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซาลาเปาลาวา ขนมสุดฮิตไม่ลองทำไม่ได้แล้ว
5. ซาลาเปาไส้ชาเขียว
ใครชอบชาเขียวบ้างคะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มชาเขียว หรือเบเกอรี่ชาเขียว แต่สำหรับวันนี้ขอแนะนำของว่างอย่างซาลาเปาไส้ชาเขียวค่ะ รับรองอร่อยไม่แพ้เมนูอื่นเลย และยิ่งถ้าหากได้ดื่มชาเขียวไปพร้อมกับกินซาลาเปาไส้ชาเขียวแล้วฟินแน่นอนเลยค่ะ ไส้ชาเขียวรสหวานนิด ๆ หอมกลิ่นชา ถ้าไม่ชอบหวานมากก็ลดประมาณน้ำตาลไอซิ่งลงไปได้นะคะ
ส่วนผสม ซาลาเปาไส้ชาเขียว
แป้งซาลาเปา (จากสูตรด้านบน) ผสมผงชาเขียวลงไป 1/4 ถ้วยตวง
ผงคัสตาร์ดสำเร็จรูป 150 กรัม
ผงวานิลลา 1 ช้อนชา
ผงชาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ
นมสดแช่เย็น 450 กรัม
เนยเค็มละลาย 50 กรัม
พลาสติกถนอมอาหาร (สำหรับคลุมแป้ง)
กระดาษรองซาลาเปา
วิธีทำซาลาเปาไส้ชาเขียว
1. เตรียมส่วนผสมแป้งให้พร้อม
2. ร่อนผงคัสตาร์ด ผงวานิลลา ผงชาเขียว และน้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกัน เทใส่เครื่องตีแป้ง เติมนมสดตามลงไป ตีผสมด้วยหัวตีรูปตะกร้อตีด้วยความเร็วสูงสุดพอส่วนผสมเริ่มเหนียวข้น จากนั้นใส่เนยละลายลงไปตีต่อจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
3. แผ่แป้งซาลาเปาที่ขึ้นฟูแล้วให้เป็นแผ่นบาง ตักไส้ครีมชาเขียวลงไปแล้วห่อให้สวยงาม วางบนกระดาษ พักให้แป้งฟูขึ้นสักครู่
4. นำซาลาเปาไปนึ่งบนน้ำเดือดโดยใช้ไฟปานกลางประมาณ 8-10 นาทีจนสุกยกลง นำออกจากที่นึ่ง จัดเสิร์ฟ
6. ซาลาเปาไส้ชาไทย
ซาลาเปาไส้ชาไทย จับสังขยามาผสมชาไทย หรือชาเย็นจนกลายเป็นไส้หอมหวาน หากได้กินเป็นอาหารว่างกับเครื่องดื่มชานมเย็น ๆ หรือชาดำสักแก้ว คงอิ่มสบายท้องไปจนถึงมื้อเย็นเลยล่ะ
ส่วนผสม ซาลาเปาไส้ชาไทย
แป้งซาลาเปา (จากสูตรด้านบน)
นมข้นจืด 2 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวโพด 70 กรัม
ไข่แดง (ตีพอแตก) 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 160 กรัม
นมข้นจืด 2 ถ้วยตวง
น้ำชาดำ 1/2 ถ้วยตวง
ผงวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
พลาสติกถนอมอาหาร
กระดาษรองซาลาเปา
วิธีทำซาลาเปาไส้ชาไทย
1. เตรียมส่วนผสมแป้งให้พร้อม
2. ผสมนมข้นจืดกับแป้งข้าวโพดเข้าด้วยกันในหม้อ จากนั้นใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย นมข้นจืด น้ำชาดำ และผงวานิลลาลงไปในหม้อ จากนั้นนำไปตุ๋นบนน้ำเดือดและคนด้วยตะกร้อมือจนส่วนผสมข้นเป็นรอยตะกร้อมือ ยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็นสนิท เตรียมไว้
3. แผ่แป้งซาลาเปาที่ขึ้นฟูแล้วเป็นแผ่นบาง ๆ ตักไส้สังขยาชาไทยลงไปแล้วห่อให้สวยงาม วางลงบนกระดาษ พักไว้จนขึ้นฟูเป็นสองเท่า
4.. นำซาลาเปาไปนึ่งบนน้ำเดือดโดยใช้ไฟปานกลางประมาณ 8-10 นาทีจนสุกยกลง นำออกจากที่นึ่ง จัดเสิร์ฟ
7. ซาลาเปาไส้สังขยา
ถ้ากินซาลาเปาไส้หวานอย่างซาลาเปาไส้ครีม ซาลาเปาไส้ครีมลาวา ซาลาเปาไส้ชาเขียว และซาลาเปาไส้สังขยาชานมจนเบื่อแล้วต้องลองทำซาลาเปาไส้สังขยาสูตรจากคุณ Mcjaiaon สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไส้สังขยาสีเขียวหอมกลิ่นใบเตย จะใส่ไส้มากหรือไส้น้อยก็ตามชอบ กินลูกเดียวไม่พอแน่นอนจ้า
ส่วนผสม ซาลาเปาไส้สังขยา
แป้งสาลีชนิดเบา 350 กรัม
ยีสต์แห้งชนิดจืด 1 ช้อนโต๊ะ (10 กรัม)
น้ำเปล่า หรือน้ำใบเตย 230 กรัม (ถ้าอยากได้สีเขียวก็คั้นข้น ๆ หน่อยนะคะ)
แป้งสาลีชนิดเบา 150 กรัม
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 125 กรัม
น้ำมันพืช 3-4 ช้อนโต๊ะ
พลาสติกถนอมอาหาร (สำหรับคลุมแป้ง)
กระดาษรองซาลาเปา
วิธีทำซาลาเปาไส้สังขยา
1. ผสมเเป้งสาลี 350 กรัมกับยีสต์คนให้เข้ากันแล้วใส่น้ำใบเตยลงไป (ถ้าใครทำสีขาวแล้วอยากให้ซาลาเปามีสีขาว ๆ น่ากิน ให้ใส่น้ำเปล่าธรรมดา เเต่ตอนนึ่งให้ใส่น้ำส้มสายชูลงไปในน้ำในที่นึ่งซาลาเปาจะช่วยให้ซาลาเปาขาวขึ้นนิดหน่อย ไม่ใส่น้ำส้มสายชูลงไปตอนนวดเเป้ง) แล้วนวดให้ส่วนผสมรวมกันเป็นก้อน ใช้เวลานวดไม่นานเอาแค่ส่วนผสมเนียน ประมาณไม่ถึง 5 นาที
2. พักโดว์ไว้ในที่อุ่นประมาณ 30- 50 นาที หรือจนขึ้นเป็นสองเท่า (อาจใช้วิธีนำอ่างใส่น้ำอุ่นค่อนไปทางร้อนมาวางใต้ กะละมังเเล้วก็พักไว้ในเตาอบ วิธีนี้ทำให้แป้งขึ้นเร็วไม่ต้องรอนาน)
3. ร่อนเเป้งสาลี 150 กรัม เกลือป่น เเละผงฟูรวมกันแล้ว พักไว้
4. นำแป้งโดว์ใส่ในเครื่องทำขนมปังเปิดโปรเเกรมโดว์ นวดจนครบ 30 นาที โดยระหว่างที่เครื่องนวดค่อย ๆ ทยอยใส่ส่วนผสมแป้ง และก็ใส่น้ำมันพืชลงไป เครื่องจะนวดประมาณ 5 นาที พัก 5 นาที นวดต่ออีก 20 นาที หลังจากที่เครื่องพัก 5 นาทีเเรกเเละเริ่มนวดต่อก็ใส่น้ำมันพืชลงไป เสร็จเเล้วก็ปล่อยให้เครื่องนวดต่อไปจนครบ 30 นาที พักโดว์ไว้ในเครื่อง 10 นาที (ไม่ต้องครบ 1 ชั่วโมง ตามโปรเเกรม) สำหรับคนที่ไม่มีเครื่องทำขนมปัง ก็ใช้วิธีเทโดว์ลงในส่วนผสมแป้งนวดประมาณ 5 นาที เเล้วทยอยใส่น้ำมันพืชนวดจนเนียนประมาณ 15 นาที
5. ตัดเเป้งเป็นก้อนละ 45-50 กรัม จะทำเล็กหรือใหญ่กว่านี้ก็ได้ตามชอบ คลึงแป้งเป็นก้อนกลม ๆ สำคัญคืออย่าคลึงนานค่ะ เดี๋ยวเเป้งจะฉีก เเผ่เเป้งเป็นเเผ่นกลม ๆ โดยให้ตรงขอบมีขนาดบางกว่าตรงกลาง ที่ทำเเบบนี้เพราะเวลาเราใส่ไส้จับจีบเสร็จเเล้วเเป้งจะมีขนาดเท่ากันทั้งก้อน วางไส้ลงไปก้อนละประมาณ 35 กรัม หรือกะปริมาณน้อยหรือมากกว่านี้ก็ได้
6. จัดการห่อให้เป็นก้อนกลม ๆ หรือใช้วิธีจับจีบจนครบทุกอันก็ได้ วางลงบนกระดาษรองซาลาเปา คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารเเล้วพักให้ขึ้น 2 เท่า นานประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง นำซาลาเปาไปนึ่งไฟเเรงประมาณ 10 - 15 นาที (เวลาขึ้นอยู่กับไส้เเละขนาด) เอาออกมา พร้อมเสิร์ฟ
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซาลาเปาใบเตยเนื้อนุ่ม ไส้ครีม-สังขยา
8. ซาลาเปาไส้งาดำ
ซาลาเปาไส้งาดำ สูตรซาลาเปาใส่ไส้ธัญพืชอย่างงาดำรสชาติหวานหอม ถ้าอยากให้แป้งซาลาเปามีเนื้องาและกลิ่นของงาดำด้วยก็จัดการใส่ลงไปผสมกับแป้งได้เลยนะคะ เวลานึ่งออกมาแล้วจะได้ดูน่าหม่ำมากขึ้น
ส่วนผสม ซาลาเปาไส้งาดำ
แป้งซาลาเปา (จากสูตรด้านบน)
งาดำคั่วบดละเอียด 100 กรัม
นมข้นจืด 300 กรัม
นมสด 200 กรัม
แป้งข้าวโพด 60 กรัม
น้ำตาลทราย 150 กรัม
พลาสติกถนอมอาหาร (สำหรับคลุมแป้ง)
กระดาษรองซาลาเปา
วิธีทำซาลาเปาไส้งาดำ
1. เตรียมส่วนผสมแป้งให้พร้อม
2. ผสมงาดำ นมข้นจืด นมสด แป้งข้าวโพด และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟปานกลางกวนจนส่วนผสมข้นเหนียว ตักใส่ภาชนะ พักทิ้งไว้ให้เย็นสนิท
3. แผ่แป้งซาลาเปาที่ขึ้นฟูแล้วเป็นแผ่นบาง ๆ ตักไส้งาดำที่กวนไว้ลงไปแล้วห่อให้สวยงาม วางลงบนกระดาษ พักไว้จนขึ้นฟูเป็นสองเท่า
4.. นำซาลาเปาไปนึ่งบนน้ำเดือดโดยใช้ไฟปานกลางประมาณ 8-10 นาทีจนสุกยกลง นำออกจากที่นึ่ง จัดเสิร์ฟ
9. ซาลาเปาซิ่วท้อ
ซาลาเปาซิ่วท้อปั้นเลียนเเบบลูกท้อที่คนจีนเชื่อว่าเป็นผลไม้จากสวรรค์ ส่วนใหญ่มักมอบซิ่วท้อให้ในวันเกิดญาติผู้ใหญ่มีความหมายให้คนรับมีอายุยืนยาวหรือเอาไปไหว้เทพเจ้าในวันสำคัญ สำหรับสูตรนี้ไม่ใส่ไส้ แต่ถ้าใครอยากใส่ก็ไม่ว่ากัน ใส่ได้ทั้งไส้ครีม หรือไส้ถั่วกวน
ส่วนผสม แป้งเชื้อ
แป้งเค้ก 350 กรัม
ยีสต์ 1 1/2 ช้อนชา
เนยขาว 10 กรัม
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
ส่วนผสมแป้งโด
แป้งเค้ก 180 กรัม
ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
แป้งเชื้อ
น้ำตาลทราย 150 กรัม
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
เนยขาว 60 กรัม
พลาสติกถนอมอาหาร (สำหรับคลุมแป้ง)
กระดาษรองซาลาเปา
สีผสมอาหารสีชมพูผสมน้ำเปล่า
แปรงสีฟันสะอาด (ยังไม่ได้ใช้)
วิธีทำแป้งเชื้อ
1. ร่อนแป้งเค้กลงอ่างผสม ใส่ยีสต์คนให้เข้ากัน ทำแป้งเป็นบ่อตรงกลาง เทน้ำเปล่าลงไป นวดจนส่วนผสมเป็นก้อน
2. ใส่เนยขาว นวดต่อจนเนื้อเนียน คลุมภาชนะด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักแป้งไว้ประมาณ 30-40 นาที หรือจนส่วนผสมฟูเป็นสองเท่า
วิธีทำซาลาเปาซิ่วท้อ
1. ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูเข้าด้วยกัน ใส่ลงอ่างผสม เตรียมไว้
2. ใส่แป้งเชื้อ น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไปในเครื่องตีแป้ง ตีด้วยหัวตีรูปตะขอด้วยความเร็วปานกลางพอเข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ เทแป้งที่ร่อนไว้ลงไปตีผสมจนเป็นก้อน
3. สุดท้ายใส่เนยขาวลงไปนวดต่อให้เข้ากันจนแป้งเนียนจากนั้น นำออกมาคลึงเป็นก้อนกลม คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักแป้งไว้ประมาณ 5-10 นาที
4. ตัดแบ่งแป้งซาลาเปาออกเป็นก้อน คลึงเป็นก้อนกลม ๆ แล้วปั้นเป็นรูปหยดน้ำ จากนั้นใช้ไม้จิ้มฟันให้เป็นร่องตรงกลางแป้ง
5. ใช้แปรงสีฟันจุ่มลงในสีผสมอาหารที่ผสมน้ำไว้แล้วค่อย ๆ ดีดลงบนแป้งซาลาเปาด้านที่แหลมบาง ๆ จากนั้นนำไปวางลงบนกระดาษรองซาลาเปา พักไว้จนขึ้นฟูเป็นสองเท่า
6. นำซาลาเปาขึ้นนึ่งบนน้ำเดือดใช้ไฟปานกลางประมาณ 8-10 นาที ยกลง นำออกจากที่นึ่ง จัดเสิร์ฟ